หากจะพูดถึงแม่ค้าขายส่งเสื้อผ้าย่านประตูน้ำรายใหญ่และใจถึง ต้องมีชื่อ “เจ๊เหมย” เฟสบุค กัลยา ทวีอภิรดีทองคำ ติดหนึ่งอยู่ในนั้นแน่นอนเพราะเธอเองมีร้านขายส่งเสื้อผ้าเจ้าแรกๆที่เอามาจากจีนมากถึง 5 ร้านทั้งตรงฝั่งห้างแพลตินั่ม ขยายธุรกิจใหญ่โตมีกำไรเดือนหนึ่งมากถึง 3-5 ล้าน มีลูกน้องหลายสิบคน เดือนๆหนึ่ง ต้องเดินทางบินไปเมืองจีน ไปกวางโจวสั่งโรงงานผลิตจากที่นั่นนำเสื้อผ้าแฟชั่น กระโปรง แบบใหม่ๆ มาขาย แต่สุดท้ายเจอสภาวะเศรษฐกิจพ่นพิษ โดนคู่แข่งขายตัดราคาการแข่งขันสูงทำให้เจ้าตัวต้องปิดกิจการหันมาเอาดีกับการทำสบู่สลายฝ้าสีม่วงที่ตอนนี้ขายดีมากที่สุดในประเทศ ยอดถล่มมากกว่า 7 แสนก้อนแล้ว สร้างยอดขายมากกว่า 50 ล้านบาทภายในระยะไม่กี่วันหลังจากผลิตออกมา เรียกว่าเป็นสบู่สำหรับคนหน้าเป็นฝ้าที่มาแรงที่สุด เผยชีวิตการต่อสู้ก่อนจะมาเป็น เจ๊เหมย แพลทตินั่ม ว่า เริ่มไต่เต้าจากการเป็นลูกน้องเขาก่อนพอรู้ลู่ทางรวยเลยคิดการใหญ่มาเปิดร้านเสื้อผ้าเอง!!

“เหมยเริ่มต้นด้วยการไปสมัครทำงานที่ร้านขายส่งเสื้อผ้าตรงประตูน้ำเป็นลูกจ้างเขา เขาให้ยืนก็ยืนทั้งวัน เป้าหมายเราคือไปฝึกเพื่อรู้ขั้นตอนทุกอย่างว่าขายยังไงจนพอผ่านไป 15 วันเราลาออกเพื่อไปเปิดร้านเสื้อผ้าเองที่แพลทตินั่มเป็นของตัวเอง ตอนนั้นหาเงินมาหุ้นกับพี่สาวรวมค่าเช่าที่ต้องจ่ายช่วงแรกประมาณสองหมื่นบาท รวมค่าหมัดจำอีกสองหมื่น ทั้งหมดจ่ายไปสี่หมื่นบาท เหมยก็เริ่มเปิดร้านของตัวเอง โดยที่เราบินไปเมืองจีนเลยเพื่อไปเอาเสื้อผ้ามาขาย และก่อนจะเปิดร้านเหมยนั่งรถเมล์ไปตามตลาดนัดเพื่อไปแจกนามบัตรให้กับแม่ค้ารายย่อยว่าเรามีสินค้ากระจายขายส่งมาเยอะมาก พวกเสื้อผ้าแฟชั่น เพื่อให้เขามารับกับเรา”
รู้ลู่ทางทำมาหากินบวกกับหัวการค้าพูดภาษาจีนได้เพราะเป็นลูกครึ่งไต้หวัน ทำให้เจ๊เหมย ขายดีมีกำไรงามจากการเปิดร้านเสื้อผ้าจากหลักแสนกลายมามีกำไรหลายล้านต่อเดือน “เหมยสั่งเสื้อผ้าแบบต่างๆจากจีน ดันขายดีมาก เช่นเราซื้อมาตัวละ 100 หรือ 110 เราขายส่งตัวละ 150 บาทเพราะว่าขายส่งมันได้กำไรแค่ 40-50 บาทต่อชิ้นแต่ปริมาณเยอะๆ เช่นแบบหนึ่งๆสั่งกันที่ 100-200 ตัว ก็คือเยอะ แล้วเรามีแบบเสื้อผ้าเป็น 30-40 แบบเริ่มขายดีจากหลักร้อยตัว กลายเป็นหลายพันตัวต่อหนึ่งแบบ จากนั้นเหมยก็ขยายสาขา แพลทตินั่มจากตอนแรกมีร้านเดียวขยายเพิ่มเป็น 2 ร้าน ค่าเช่าข้างล่างเดือนละแสนเจ็ด ข้างบนเดือนละแสนห้า ขยายจากแพลทตินั่มก็มาเปิดร้านอีกห้างตรงข้ามแพลทตินั่มอีก 3 ร้าน รวมทั้งหมดเรามีร้านขายส่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั้งหมด 5 ร้าน”

เผยยอดขายหลายสิบล้านต่อเดือน กำไรขั้นต่ำ 3-5 ล้าน วันหนึ่งๆเงินผ่านมือวันละล้านถือว่าเป็นเรื่องปกติ “ธุรกิจโต เหมยต้องใช้ลูกน้องเยอะ ยอดขายดีนะ บางตัวเราขายได้กำไรตัวละ 150 ตอนนั้นมีลูกค้าจากทางบรูไน มารับทีมูลค่าเป็นล้านๆเลยนะออเดอร์จากเขา พอทำไปทำมาเริ่มมีคนมาตัดราคาเรา มากอปปี้แบบเสื้อผ้าเรา จากตอนแรกเราได้กำไรเยอะใช่ไหมค่ะ สุดท้ายก็มีคนกอปปี้ เช่นเราขายส่ง 350 มีคนตัดราคาเรา 220 พอทำไปทำมามันเริ่มไม่เวิร์ค ยอดขายวันละเกือบล้านแล้วพอตัดราคาแล้วเจอเหตุการณ์ไม่สงบบ้านเมือง มีประท้วงกีฬาสีเอย น้ำท่วมเอย ธุรกิจกระทบ ทำให้ขาดทุน ลูกค้าหาย เริ่มขายไม่ดีสุดท้ายก็ทยอยปิดตัว และมันอยู่ในช่วงจังหวะที่เราอิ่มตัวด้วยแล้ว คือเราไม่อยากบินไปเมืองจีนแล้ว เพราะตลอดที่ผ่านเราทำธุรกิจเสื้อผ้ามาเองคนเดียว คิดเอง ทำเอง ถึงจะมีพี่สาวเป็นหุ้นส่วนก็จริง แต่เราก็ต้องทำหมดทุกอย่าง จนมันรู้สึกชีวิตเบื่อ อีกอย่างเราก็อยากมีคู่ชีวิตที่ทำธุรกิจด้วยกันไม่อยากทำคนเดียวสุดท้ายได้มาเจอแฟนที่ทำให้เหมยหันมาสู่เส้นทางธุรกิจใหม่ที่เรียกว่าทำกำไรแล้วไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน”
ช่วงที่เศรษฐกิจแย่ๆ ในฐานะเจ้าของธุรกิจมันก็เครียดเลยทำให้กลายเป็นคนหน้าหมองเป็นสิวเป็นฝ่าขึ้นเต็มหน้า “คือเรามีค่าเช่าร้านหลายแสน รวมค่าลูกน้องอีกตกเดือนหนึ่งประมาณ 4-5 แสน สุดท้ายก็ปิดกิจการไป จนได้มารู้จักแฟนแล้วช่วงนั้น เหมยดันไปซื้อครีมจากเน็ตมาใช้เพราะเพื่อนที่รู้จักเขาบอกซื้อครีมตัวนี้มาทาแล้วหน้าเขาขาวใสมาก เราเลยสั่งมาใช้ตาม 3 ชุดเลย ปรากฏว่าหน้าเราพัง!! สิวเห่อบุกเต็มหน้า!! แทบดูไม่ได้ หน้าแพ้แบบรุนแรง ตอนนั้นแย่มาก ธุรกิจก็พัง!! หน้าก็ยังมาพังอีก


ด้วยความที่แฟนเหมยเขาเคยทำเครื่องสำอาง เขาเลยคิดว่าหรือเราจะไปทำพวกเครื่องสำอางมาขาย เราก็บอกว่าขายใครละเขาจะเชื่อหน้าเราพังขนาดนี้ ตอนนั้นคิดหนักมากจนทะเลาะกับแฟนทุกวันเพราะเงินเริ่มร่อยหรอ ติดลบ ไหนจะค่าคอนโด ค่ารถ ค่าใช้จ่ายรายเดือน กลายเป็นว่าเริ่มบานปลาย จะทำครีมขายก็ยังตกใจกับหน้าที่พังมา ไปหาหมอสิวที่ดีที่สุดที่รีวิวในพันทิป เขาบอกต้องไปรอตั้งแต่แปดโมงเช้า ไปหาคลินิกผิวหนังหมดไปเป็นหมื่นแต่ก็ไม่หาย จนได้มาทำสบู่รักษากันเอง คือแฟนเหมยเขารู้อยู่แล้วว่าครีมทำที่ไหน สบู่ทำที่ไหนเลยได้คิดค้นเป็นสบู่สิว Vit C และสบู่สลายฝ้า ออกมาเป็นของตัวเอง เลยใช้ตัวนี้มาเรื่อยๆ พอล้างหน้าเสร็จจะใช้น้ำเกลือเช็ดหน้า ด้วยความที่เราเป็นคนหน้าแพ้ง่าย ทุกตัวที่เราใช้แล้วลองเอง คือถ้าเราไม่แพ้ลูกค้าก็ไม่แพ้ มันเลยเป็นสูตรสำเร็จที่คิดค้นและพัฒนาจนขายดีติดตลาด”

ล่าสุดเปิดตัวแรงแซงทางโค้งกับสบู่สลายฝ้าเจ้าเดียวในเมืองไทยที่มียอดขายแรงเร็วที่สุดตอนนี้มากกว่า 5 แสนก้อน “สินค้าที่ขายดีมากที่สุดอันดับหนึ่งของเราคือสบู่สลายฝ้าสีม่วง ใครเป็นสิวใช้สบู่สลายสิว เป็นชื่อในนามการขายคือสบู่สลายสิวสลายฝ้า แล้วตอนนั้นเราทำโปรแจกทองหนักให้กับตัวแทนแล้วมีการแจกสบู่สลายฝ้าให้ฟรี 1000 คนได้ใช้แล้วประทับใจสั่งออเดอร์กลับมามหาศาล เราเน้นขายออนไลน์อย่างเดียว ส่งไปที่จีน อินโดนีเซีย บ้าง โดยเฉพาะตัวสบู่สลายฝ้าของเราจะขายดีมากเป็นพระเอกของแบรนด์ So Skins ของเราเลยก็ว่าได้ เพราะคนมีปัญหาเรื่องฝ้าเยอะมาก เราคือสบู่สลายฝ้าเจ้าแรกในประเทศไทยที่ขายดีที่สุด ใช้แล้วหน้าไม่เปลี่ยนแปลงยินดีคืนเงิน ถ้าใช้ไม่ดีจริงคืนเงินไปเลย และที่พิเศษสุดเราขายในราคา 100 บาทซึ่งมันถูกมากแต่คุณภาพยิ่งกว่าหลายเท่า”

แตกต่างจากสบู่สลายฝ้าตามท้องตลาด เจ๊เหมย เผยสูตรที่มาใส่สมุนไพรไทยผสมสารสกัดจากญี่ปุ่น “สบู่สลายฝ้าของเรามีส่วนประกอบ กลูต้าและวิตามินซีญี่ปุ่นนำเข้ามา ซึ่งจุดดีของมันคือมีปริมาณวิตามินซีที่มีความเข้มข้นคุณภาพสูงมาก เพราะเมื่อค่าวิตามีนซีมันสูง มันจะช่วยทำให้ผิวหน้าเรากระจ่างใสแล้วตัวกลูต้าก็ช่วยปรับสภาพผิวขาวอยู่แล้ว มันเลยเป็นสูตรที่ลงตัวทำให้ฝ้าจางหายกลายเป็นสบู่สลายฝ้าที่มาแรงที่สุด ไม่พอเราเพิ่มสมุนไพรไทยที่มีความปลอดภัยนั่นคือขมิ้นทำให้ยับยั้งเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ฝ้าเข้มกลายเป็นว่าสต๊อป!! หยุดไว้ ทำให้ขาวเพราะขมิ้นก็ช่วยทำให้ขาวอยู่แล้วแต่เราเพิ่มความขาวให้อีกเลยออกมาเป็นสูตรสลายฝ้าโดยเฉพาะเลยนะ ลูกค้ารีวีวมาเพียบ วันหนึ่งพี่ตอบไลน์ลูกค้าตอบแชทกันไม่ทัน ยิ่งช่วงนี้แดดแรง คนที่เป็นฝ้าเยอะมาก ลูกค้าเข้ามาหาเราเยอะ เพราะเขารู้ว่าเรารักษาได้”
ไม่เคยทิ้งคอนเซ็ป เจ๊เหมย แม่ค้าใจป้ำ เหมาทองแจกตัวแทน ให้หนำใจกับยอดขาย 5 แสนก้อน “เราแจกทองกระหน่ำให้กับลูกค้า สิ่งสำคัญเราทำธุรกิจเราไม่ได้หวังว่าเราจะเอากำไรอย่างเดียว ไม่ใช่เอาสารไม่ดีถูกๆแล้วเอาไปขายแพงๆ ไม่ใช่!!เราไม่ทำ แต่เราจะเน้นคือต้องเห็นผล ถ้าไม่เห็นผลหนึ่งเราขายไป ถ้าเขาใช้ไม่ดีเขาจะกลับมาซื้อเราอีกเรอ


สำหรับเราต้องคุณภาพไว้ที่หนึ่ง ข้อที่สองการบริการต้องดี การใส่ใจในบริการของเรา จริงๆเหมยอยากทำธุรกิจหลายตัว แต่เราอยากโฟกัสเพื่อใส่ใจในการบริการ ออกมาต้องเพอเฟค เราเองพัฒนาสูตรให้ดียิ่งขึ้น ตัวนี้สบู่สลายฝ้าขายได้ประมาณ 5 แสนก้อน แปปเดียว ขายดีมาก ไปต่างประเทศไปจีน ประมาณ 20% ส่วนใหญ่จะขายในไทย เมดอินไทยแลนด์ ขายดีมากใครก็อยากใช้ เรามีตัวแทนเริ่มเข้ามาหาเรามากขึ้น ลูกค้าที่เขาซื้อกันขนาดนี้เพราะว่าแบรดน์ที่เราสร้างมาแข็งแรงมาหนึ่งปี ลูกค้าเขาไม่ได้ซื้อที่ละหนึ่งก้อนนะ เขาซื้อที่ละ 5 ก้อน บางคนซื้อ 10 ก้อน 20 ก้อนมันเลยทำให้ตัวแทนโฟลว์กับการขายออเดอร์ ยอดเข้ามา ขนาดตัวแทนปลีกคนทั่วไปซื้อที 5-10 ก้อน มีการรีออเดอร์จากตัวแทนมันเยอะ แล้วตัวแทนเราก็มีประมาณ 200 คนที่เขาขายเก่ง หลายคนสั่งที่ละพันก้อนจนกลายเป็นยอดวอลุ่มที่ 5 แสนก่อนได้ภายในระยะเวลาแปปเดียว”



เปิดตัวเชิดหน้าชูตา มีการรีวีวจากทางบ้านลงพันทิปจนเจ้เหมย หน้าบาน “ผลตอบรับเห็นผลดีมาก ต้นกำเนิดมาจากแม่ค้าหน้าพัง ไปใช้ครีมอย่างอื่นแพ้ สำหรับเหมย อยากบอกว่าเราไม่ได้มาในยุคที่เขาเห่อขายสกินแคร์ตามเน็ต แต่เราตั้งใจมา ไม่ใช่เขาขายดีเราอยากทำบ้างแต่เราตั้งใจทำ เช่นถ้าเราอยากจะขายดีกว่านี้เราก็ทำได้แต่เราไม่อยากไปทำขนาดนั้น เราอยากให้มันพร้อม สินค้าเราพัฒนาเพิ่มสูตรปรับสูตรมาเรื่อยๆ เราใช้ใจในการสร้างตัวนี้เพื่อผลตอบรับที่ดี เราทำสินค้าพรีเมี่ยมแต่เราขายในราคาถูก ลูกค้าไม่รู้หรอกว่าเราทำแพง แต่เราใช้คุณภาพอย่างดี เนื้อครีมทำอย่างดี เรามองว่าเรารักลูกค้าก่อน เพราะถ้าเขารักสินค้า เราจากที่เขาซื้อไปแค่หนึ่งชิ้นเขากลับมาซื้อเพิ่ม 5 ชิ้น เราขายถูก สบู่ก่อนนี้ขาย 350 ก็ได้แต่เราไม่ขายเราอยากตอบแทนลูกค้า เขาใช้ดีเราก็ดีใจ เขาใช้หน้าเป็นสิวเป็นฝ้า เราเข้าใจหัวอกลูกค้าเพระเราเคยหน้าพังมาก่อน”



ทำไมลูกค้าใหม่หลายคนเวลามาซื้อไม่ใช่แค่ก้อนเดียวสองก้อนแต่เป็น 5 เป็น 10 ก้อน “เขาบอกว่าราคาน่าลอง สอง เหมย ซึ่งเป็นเจ้าของสินค้า รีวิวตัวเองเสมอๆเขาเลยมั่นใจในผลิตภัณฑ์ เขาเห็นแบรนด์เรามานานแล้วแต่สินค้าตัวอื่นมันแพงไปเช่นครีมทาหน้าเขาขายกัน 800 บาท พอเห็นสบู่ตัวนี้แล้วอยากลองเพราะบางคนกำลังซื้อไม่พอ ทำให้สบู่มาปัง แล้ววิธีการที่เราแจกฟรีลูกค้าสบู่ไป 1000 ก้อน เชื่อมั้ยจากที่แจกออกไปเราได้ลูกค้าที่รักแบรนด์เราเพิ่ม 600 คนกลับมาซื้อซ้ำ จากการแจกฟรี เขามากดไลค์ กดแชร์ในเพจ บอกต่อสินค้าใช้ดี เราใช้หลากหลายกลยุทธ์ในการสร้างความประทับใจกับลูกค้า”
“บางคนมาขอบคุณเราที่แบบไม่มีแบรนด์ไหนเคยให้ฟรีเลยพันก้อน เรารู้สึกว่าได้ช่วยคน เด็กบางคนหน้าสิวหน้าแหกเราช่วยเขาได้ให้สบู่ฟรีไป เขาใช้ดีแล้วไปตัดสบู่แบ่งกับน้อง คนในครบอบครัว เขามีความสุข คนเป็นฝ้าหน้าดำ สาวโรงงานหาย เราได้ช่วยคน ให้เราได้มอบความสุข เขาหน้าดี เราเอาให้เขาใช้แล้วหน้าดีเราดีใจ ถึงแม้บางครั้งเราเจอลูกค้าแรงมาเราก็ไม่เคยด่าแรงกลับ การบริการที่เราให้ต้องดีก่อน ลูกค้าโวยวายมาเราบอกใจเย็นๆ เราไม่เคยลบเม้นลูกค้าเข้ามาด่า ถึงจะมาไม่ดี เราตอบก็ยินดีตอบ ลูกค้าสามารถโวยวายได้แต่เราอย่าไปใจร้อน จนในที่สุดสบู่สลายฝ้าเราก็ดังและปังมากตัวนี้ จนกังวลว่าโรงงานจะผลิตไม่ทัน!!! คาดว่าภายในสิ้นปียอดเกินล้านก้อนแน่นอน ตอนนี้เราประสบความสำเร็จ มีแจกเงิน แจกทอง ให้กับคนที่ยังไม่มีงานทำ รับสมัครตัวแทนขายสบู่ขายดีมากใครสนใจก็สอบถามหรือติดต่อมาได้”
แหล่ง : http://www.thaihothit.com/hot-news/14066