Monday, June 27, 2016

เจอแล้ว!! "ต้นมักกะลีผล" ที่ถูกแชร์สนั่นโลกโซเชียลฯ ที่แท้อยู่ "เพชรบูรณ์" ผลห้อยโตงเตงเต็มต้น (มีภาพ)


จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯได้มีผู้โพสต์ภาพ "ต้นมักกะลีผล หรือ ต้นนารีผล"  ต้นไม้ในเทพนิยายที่ออกผลคล้ายกับหญิงสาวเปลือยกาย ว่ามีอยู่จริงที่ในสวนป่าหิมพานต์ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และมีการแชร์ต่อกันในโลกโซเชียลมีเดียร์ กันเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งผู้ที่มีความเห็นเชื่อว่าน่าจะมีอยู่จริง และผู้ที่ไม่เชื่อว่าจะมีอยู่จริง ขณะที่บางกระทู้ได้แชร์ว่ามีอยู่จริงแต่อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เขมร พม่า และ อินเดีย เป็นต้น

ล่าสุดได้มีผู้แชร์ต่อไปว่า มีอยู่จริงในพุทธธรรมสถานวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ จนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงนี้ได้มีบรรดานักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญ หลั่งไหลกันเดินทางมาเที่ยวชม รวมทั้งผู้ที่ต้องการมาชมต้นมักกะลีผลที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว กันเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่สวนป่าหิมพานต์ ตั้งอยู่หมู่ 8 บ้านทุ่งตีนผา ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีเนื้อที่เกือบ 700 ไร่ มีการปลูกต้นไม้ที่หาชมยาก รวมทั้งรูปปั้นสัตว์ และต้นไม้ ตามเทพนิยายในวรรณคดีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะต้นมักกะลีผล หรือ ต้นนารีผล ที่เป็นกระแสโด่งดังที่ในสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้

นายบัญชา มหาแสน เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสวนป่าหิมพานต์ กล่าวว่า เจ้าของสวนป่าหิมพานต์ เป็นคนรักธรรมชาติ ชอบปลูกต้นไม้ และชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า รวมทั้งเทพนิยายในวรรณคดีต่างๆ จึงได้จ้างช่างให้ทำการสร้างต้นมักกะลีผลขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539  โดยภายในลำต้นหล่อด้วยปูนซีเมนต์แล้วหุ้มด้วยไฟเบอร์กลาส ส่วน กิ่ง ก้าน ใบ และ ผล ทำจากไฟเบอร์กลาสทั้งหมด ในราคา 350,000 บาท โดยมีกินรีผลอยู่ จำนวน 52 ตัว แต่ปัจจุบันได้ถูกนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน ใช้ไม้ไผ่สอยขโมยไปจำนวนเกือบ 30 ตัว เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลของต้นมักกะลีผลจริงๆ

นายบัญชา มหาแสน ยังกล่าวต่ออีกว่า ต้นมักกะลีผล เป็นต้นไม้อยู่ในวรรณคดี ในทศชาติชาดกในชาติที่ 10 เกี่ยวกับพระเวสสันดร เป็นบุตรของพระเจ้าสัญชัยและพระนางผุสดี และมีลูกชายก็คือพระเวสสัญดร ช่วงนั้นได้เกิดภัยพิบัติ ภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พระเวสสัญดรก็ได้มอบช้างเผือก 1 คู่ ทำให้เกิดฝนตกต้องตามฤดูกาลขึ้นมา แต่พวกอำมาตย์กลับไม่พอใจ พระเจ้าสัญชัยก็เลยขับไล่พระเวสสัญดรให้เข้าไปอยู่ในป่า ซึ่งในป่าหิมพานต์ก็มีต้นมักกะลีผล ทางเจ้าของสวนป่าหิมพานต์จึงได้จินตนาการขึ้นมา เนื่องจากในทศชาติชาดกในชาติที่ 10 กล่าวไว้ว่า ต้นมักกะลีผล จะสูงใหญ่มาก และจะออกลูกเป็นผู้หญิงเปลือยกาย โดยพระอินทร์เป็นผู้นิมิตรสร้างขึ้น เพื่อให้เหล่าคนธรรพ์ และพวกฤษีนั้น ลดละจากกามคุณทั้ง 5

จึงได้สร้างต้นมักกะลีผลต้นนี้ขึ้นมาในราคา 350,000 บาท สร้างมาได้ 10 กว่าปี ทำด้วยไฟเบอร์กลาส ข้างในจะเป็นปูนหุ้มด้วยไฟเบอร์กลาส ต้นนี้ จึงเป็นต้นที่จินตนาการขึ้นมามีเพียงต้นเดียว ในโลกนี้คิดว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะเป็นต้นไม้ในเรื่องทศชาติชาดก เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะแชร์ต่อ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ทำจากจินตนาการ ของจริงไม่มี ส่วนที่เขาบอกว่ามีอยู่ที่อื่นๆอีกนั้น ตนก็ต้องขอดูก่อนถ้ามีลักษณะเหมือนกันก็แสดงว่าทำลอกเลียนแบบก๊อบปี้จากเราไป เพราะเราสร้างขึ้นมาเองทำขึ้นมาเอง ส่วนที่เขาไปแชร์ในเฟสบุ๊คว่าเป็นต้นไม้ที่มีชีวิตจริงๆนั้น ไม่มีชีวิตจริงๆเพราะว่าเป็นต้นไม้ที่เราสร้างขึ้นมาเอง ไม่มีชีวิตจริงๆและไม่น่าจะแชร์ต่อ

ภาพ / ข่าว :  มนสิชา  คล้ายแก้ว  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. เพชรบูรณ์
แหล่ง : http://www.tnews.co.th/html/content/193743/

ช็อกแป็ป !! "แตงโม" ไม่สนโตโน่ เผยไลน์คุย "เทพพิทักษ์" แบบนี้ทำเอาคนเชียร์เป็นแถว !??


วันที่ 27 มิ.ย. ที่ สตูดิโอ Creatimage สุขุมวิท 71 แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาฟิตติ้งละคร “The Extra วงการร้ายวงการรัก” ถึงเรื่องที่ แพท-ณปภา ตันตระกูล ได้ขึ้นไอจีขอบคุณนักร้องหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หลังจากต่อสายตรงมาขอโทษและเคลียร์เรื่องที่มีแฟนคลับของหนุ่ม “โตโน่” เข้ามาต่อว่าสาว “แพท” โดยลามไปถึงคุณแม่ ทำให้ดาราสาวคอมเมนต์ชี้แจงกลับถึงสถานะความสัมพันธ์กับหนุ่ม “โตโน่” จนกลายเป็นดราม่า


แตงโม กล่าวว่า “เรื่องที่แพทกับโน่เคลียร์กันแล้วนั้น ตรงนี้เป็นเรื่องของเขาเพราะโมเป็นคนนอกไม่ได้เกี่ยวกับเขาสองคน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีการทำความดี น่ารักๆ แบบนี้หมายถึงว่ามีการขอโทษขอโพย โมว่ามันเป็นมิตรภาพที่ดีที่มันควรจะเป็น ภาพและข้อความที่แพท ลงขอบคุณโน่ในไอจีมีเพื่อนส่งมาให้ดู วินาทีที่เห็นก็โอเคเลย เขาน่ารักเลยที่ออกมาทำแบบนั้น เพราะโม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน เขาก็ต้องทำแบบนั้นแหละในการที่จะแสดงความจริงใจและน้ำใจไมตรีต่อกัน เขาก็ยืนยันว่าเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉะนั้นการทำแบบนี้ก็เป็นอะไรที่ถูกที่ควรแล้ว น่ารักดีค่ะ”


“ถามว่าน้อยใจมั้ยที่เขาขอโทษกันแต่ไม่มาขอโทษโม อย่างที่บอกไปคราวที่แล้วว่าโมจะไม่คิดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ก็เฉยๆ มาก ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรกับใครอีก แล้วก็กลับมาอยู่กับตัวเองและขยันทำงาน แต่เชื่อว่าเดี๋ยวต่างฝ่ายก็ต้องคำถามของกันและกันไปตลอดชีวิตอยู่เรื่อยๆ”


แอบงงไหม ว่า ก่อนหน้าหนึ่งวันยังดูเหมือนจะไม่พอใจกันอยู่ แต่มาอีกวันก็ขึ้นว่าดีและเข้าใจกันแล้ว แตงโมกล่าวว่า “อารมณ์ของตัวเขาโมคงตอบแทนไม่ได้เลยแหละเพราะมันไม่เกี่ยวกับโมแล้วจริงๆ ค่ะ”


ถามถึงเรื่อง “เทพพิทักษ์ แอสละ” บอกว่าชื่นชอบแตงโมมาก ดาราสาวกล่าวว่า “รู้จักกันเป็นการส่วนตัวและก็มีคุยๆ กันอยู่บ้าง มีไลน์กันด้วยค่ะ พอดีว่าโมกับเขาเล่นหนังด้วยกัน ทุกคนที่เจอก็ชื่นชอบเขาอยู่แล้วเพราะเขามีความน่ารัก แล้วก็ตอนนี้เขาก็เป็นคนดังในโลกโซเชียลฯ ด้วย เรียกว่าเป็นเน็ตไอดอลที่มีความสุภาพ ตอนแรกโมก็ขอเขาถ่ายรูป หลังจากนั้นพอร่วมงานกันก็มีไลน์กรุ๊ปเลยได้ติดต่อกัน แล้วก็มีโอกาสได้คุยเปิดใจหลายอย่างกับเขา หมายถึงว่าตัวเขาเป็นคนที่มาปรึกษาโมมากกว่า ไม่ใช่โมไปปรึกษาเขานะคะ ถึงแม้ว่าเขาจะมีพี่พชร์ (อานนท์) คอยดูแลอยู่แล้ว แต่บางครั้งเขาก็ยังวางตัวในรูปแบบของการทำงานยังไม่แข็งแรงพอในการที่อยู่ในวงการ เพราะเขาค่อนข้างเป็นคนซื่อๆ ใสๆ ก็ยังมีผวาผู้ใหญ่ มีกลัวโน่นนี่นั่น ฉะนั้นก็จะต้องช่วยเขาละลายพฤติกรรมในการอยู่ร่วมกันว่ามันไม่น่ากลัวขนาดนั้น ที่สำคัญคืออย่าลืมตัว โมก็จะคอยบอกเขาเรื่อยๆ เพราะตัวเขาชอบบอกว่าท้อ ท้อในเรื่องความเป็นอยู่ในกรุงเทพฯ ที่มันค่อนข้างวุ่นวายด้วย มันไม่ได้สะดวกสบายเหมือนตอนอยู่ต่างจังหวัด”


เทพพิทักษ์ เคยเข้ามาพูดกับแตงโมตรงๆ เลยไหมว่าชอบนะ ดาราสาวกล่าวว่า “ไม่มีนะคะ แต่เข้าใจว่าที่เขาพูดไปคงเพราะเขาน่าจะรู้จักโมคนเดียวในวงการแหละ (หัวเราะ) อาจจะมีโม มีพี่ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ ที่เขารู้จักก็น่าจะพูดได้ทำนองนี้เพราะคนอื่นเขาก็ไม่เคยร่วมงานก็อาจจะไม่กล้าพูดด้วย เขาคงไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นหรอก”


“ส่วนที่เขาเขินเวลาพูดถึงโมนั้น คือเขาเป็นคนน่ารัก สุภาพ และเจียมเนื้อเจียมตัว อีกอย่างคงเพราะโมให้คำปรึกษาเขาด้วยก็เลยทำให้เขารู้สึกชื่นชอบ ซึ่งโม ก็บอกว่ามีอะไรก็ถามมาได้เพราะโม ก็โดนมาเยอะ อยู่วงการมาก็นาน ส่วนถ้าใครจะเอาโมกับเขาไปเป็นคู่จิ้นกันก็ยินดีเลยค่ะ” แตงโมกล่าว


แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183466