Sunday, June 19, 2016

จำได้ไหม!! "หนุ่มเหยินเศรษฐีไทเป" ที่ดังสนั่นโซเชียล แทบไม่อยากเชื่อเขาจะสิ้นลาย ล่าสุดเขากลายเป็นแบบนี้ !?


สยามอัพเดทได้นำเสนอหนุ่มเหยิน ไทเป ชายเศรษฐีชาวไต้หวัน ที่หลายคนรู้จักดี ที่ก่อนหน้านี้เขามักจะโพสต์คลิปโชว์ความรวยแล้วคบสาวสวยๆ มีเงินมากมายและรถสวยๆขับ แต่ตอนนี้ เหยิน ไทเป ได้นอนโรงพยาบาลเพราะเป็นโรคเกี่ยวกับเลือด และวอนขอความเห็นใจกับชาวเน็ต




เหยิน ไทเป กลายเป็นคนป่วยหนักแล้ว วอนขอความเห็นใจจากทางโซเชียล ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้กับ เหยิน ไทเป ด้วยนะครับ ในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน



เครดิต :  http://www.siamupdate.com/news-183360

ตะลึง!! ลุยตรวจแผงหมูตลาดเจอสารปนเปื้อน แต่เมื่อถามแม่ค้าบอกแบบนี้ แทบไม่กล้าซื้อกิน !???


มื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.ตประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคม.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจสอบแผงจำหน่ายเนื้อสัตว์ ในตลาดสี่มุมเมือง ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เป็นสินค้าที่ประชาชนใช้เป็นปกติ ในชีวิตประจำวัน เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา เป็นต้น เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มักจะมีการลักลอบใส่สารบอแรกซ์ เพื่อทำให้สินค้ามีความหยุ่นกรอบ คงตัวได้นาน ไม่บูดเสียง่าย อันอาจมีอันตราย จากสารบอแรกซ์ ผู้บริโภคไปแล้วมักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอุจจาระร่วง อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้ทาง บก.ปคบ.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว เกี่ยวกับการจำหน่ายเนื้อหมู ภายในตลาดสี่มุมเมืองย่านลำลูกกา ซึ่งอาจจะมีการจำหน่ายเนื้อหมู ที่ใส่สารบอแรกซ์ จึงได้สุ่มและมีเก็บตัวอย่าง เนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา ไปตรวจสอบอีกครั้ง



ด้านพ.ต.ท.อภิชัย ไลออน รองผกก.4 บก.ปคบ.กล่าวว่าได้ตรวจยึดและเก็บตัวอย่างเนื้อหมูทั้งหมด 36 แผง เจอสารบนเปื้อน 8 แผง และจะนำไปตรวจสอบอีกครั้งหากพบหรือมีการใส่สารบอแรกซ์ จะนำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบเบื้องต้น และหากผลการตรวจสอบ พบว่าเนื้อหมู ที่มีการใส่สารบอแรกซ์ ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายเนื้อหมู ในข้อกล่าวหาว่า"จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์" ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 20,000 หรือทั้งจำทั้งปรับตามพ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522



ดร.เกศแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ในปัจจุบันมีผู้รับก็ปล่อยสารเคมีในเนื้อสัตว์เป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าเนื้อสัตว์มีการใส่สารเคมีหรือไม่ หากซื้อไปบริโภคอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภคและประชาชนโดยทั่วไป จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชน ควรหลีกเลี่ยงสารบอแรกซ์ ในอาหารโดยไม่กินอาหารที่มีลักษณะกรอบเด้งหรืออยู่ได้นานผิดปกติ และสังเกตเนื้อหมูให้ดีถ้าสีแดงเกินไปให้ควรหลีกเลี่ยง ส่วนเนื้อหมูที่ไม่มีสารปนเปื้อนจะอยู่ได้ไม่นาน



โดยเจ้าของร้านขายหมูร้านหนึ่งในตลาด กล่าวว่า ส่วนมากจะใส่สารกันบูดในหมูบดต่อเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้น ส่วนมากจะใส่กันทุกร้านเพราะถ้าใส่แล้วเนื้อหมูจะอยู่ได้นาน



เครดิต :  http://www.siamupdate.com/news-183370

ช็อกทั้งหมู่บ้าน !! สาววิ่งมาหาตำรวจ บอกแม่เป็นปอบ พอฟังชาวบ้านถึงกับหลอนหนัก แบบนี้เองหรอ !?



สุดทน!! ลูกพาแม่เเจ้งความเอาผิดโดนชาวบ้านกล่าวหาเป็นปอบ ทำชีวิตตายทั้งเป็น!!
วันที่ 19 มิ.ย.59 นางผัน (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี และ น.ส.ณัฎฐณิดา แสงสว่าง อายุ 30 ปี สองแม่ลูกชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับทางญาติๆ  และชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่กล่าวหาว่า นางผัน เป็นผีปอบ ทั้งได้บีบบังคับพาไปหาพระ หมอผี ยังจังหวัดต่างๆ  ทำพิธีขับไล่ภูตผีหลายครั้ง จนทำให้ครอบครัวเกิดความอับอาย  และถูกชาวบ้านรังเกลียด
และยังทำร้ายร่างกาย นางผัน จนได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของตัวเองได้สาเหตุที่ชาวบ้านใส่ร้ายว่า นางผัน เป็นปอบ น่าจะมาจากกรณีที่มีคนข้างบ้านป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอีกคนเป็นโรคหอบหืด ทั้งสองมีอาการเจ็บป่วยกำเริบขึ้นมา และชาวบ้านกล่าวหาว่า นางผัน ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง เพราะลูกๆ ต้องไปทำงานต่างจังหวัด
ทุกวันนี้ นางผัน ต้องทนอยู่ด้วยความอับ  กระทั่ง นางณัฎฐณิดา ลูกสาว  ทราบว่าแม่โดนใส่ร้าย ต้องลางานกลับมาดูแลแม่อยู่บ่อยๆ  ล่าสุดทนไม่ไหว จึงได้พาแม่เข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับบุคคลที่กล่าวหา และทำร้ายร่างกายแม่
นางณัฎฐณิดา แสงสว่าง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ด้วยฐานะที่ค่อนข้างจะยากจนตนกับน้องชายจึงต้องเดินทางไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด จำเป็นต้องปล่อยให้แม่อยู่บ้านตามลำพัง ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจตราที่บ้านด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้แล้ว พร้อมสอบปากคำทั้งสองฝ่าย หากพบว่าชาวบ้านได้กล่าวหาใส่ร้าย และทำร้ายร่างกายจริง  จะดำเนินการแจ้งข้อหาบุคคลดังกล่าวต่อไป



เครดิต :  http://www.siamupdate.com/news-183357