Monday, June 6, 2016

สุดยอด! รู้หรือไม่ “น้ำมันมะพร้าว” ดื่มแล้ว ฆ่าเชื้อมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้มากกว่า 93 % รู้แล้วต้องแชร์!

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) มีผลการรักษาจากไวรัสได้หลากหลายชนิด เชื้อรา ปรสิต และแบคทีเรียต่างๆได้จริง และยังส่งผลต่อการทำงานในระบบการย่อยอาหาร ตับ ผิวหนัง และการรักษาบาดแผลได้ดี โดยเมื่อเร็วๆนี้ น้ำมันมะพร้าวถูกนำไปใช้ในการรักษาการเกิดโรคหัวใจ และโรคเบาหวานอีกด้วย

ในการวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า น้ำมันมะพร้าวมีศักยภาพในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริคที่มีความสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ถึง 98 % ภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากกรดลอริคจะมีความสามารถในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้แล้ว ยังช่วยในกระบวนการเกิดและการทำลายอนุมูลอิสระ พร้อมกับช่วยลดระดับกลูตาไธโอนที่เป็น สารมหัศจรรย์อย่างยิ่ง มีคุณอนันต์ต่อสุขภาพ ผู้ที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาว ในร่างกายของเราอีกด้วย


แหล่ง : http://www.naarn.com/4728/

เมียลูบคลำเจ้าโลกให้ผัวกับลังเคลิบเคลิ้ม ขณะนั้นผัวร้องลั่นเลือดสาด เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งมีคนถูกอาวุธมีดฟันที่อวัยวะเพศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ได้พาร่างที่บริเวณเป้ากางเกงชุ่มไปด้วยเลือด ใช้ถุงน้ำแข็งประคบอวัยวะเพศ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด โดยมี น.ส.แอน (นามสมมุติ) ภรรยา อายุ 39 ปี ยืนรอดูอาการอย่างไม่ละสายตา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลบางละมุงอย่างเร่งด่วน
สอบถาม น.ส.แอน (นามสมมุติ) ผู้เป็นภรรยา เล่าว่า ตนทั้งสองมีอาชีพค้าขายไก่ทอด ก่อนเกิดเหตุได้ระแคะระคายว่าสามีสุดที่รักแอบปันใจให้หญิงอื่น ซึ่งหญิงสาวคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่ตนเองไว้ใจ แอบมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามีของตนเอง 
ทำให้ตนเองเกิดความคับแค้นใจเป็นอย่างมาก จึงวางแผนทำทีไปลูบคลำอวัยวะเพศของสามี จากนั้นอาศัยจังหวะที่สามีกำลังเคลิบเคลิ้มใช้มีดคัตเตอร์เฉือนอวัยวะเพศของ สามีจนเกือบขาด เลือดพุ่งกระฉูดเต็มที่นอน ทำให้สามีร้องลั่นบ้าน ด้วยความสงสารจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯนำส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น นายสมชาย(นามสมมุติ) ได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดมาก ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนอวัยวะเพศจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากกลัวกระทบกระเทือนจิตใจของผู้บาดเจ็บ จึงต้องรอติดตามผลการรักษาและพักฟื้นดูอาการต่อไป
แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183183

เมียลูบคลำเจ้าโลกให้ผัวกับลังเคลิบเคลิ้ม ขณะนั้นผัวร้องลั่นเลือดสาด เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งมีคนถูกอาวุธมีดฟันที่อวัยวะเพศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ได้พาร่างที่บริเวณเป้ากางเกงชุ่มไปด้วยเลือด ใช้ถุงน้ำแข็งประคบอวัยวะเพศ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด โดยมี น.ส.แอน (นามสมมุติ) ภรรยา อายุ 39 ปี ยืนรอดูอาการอย่างไม่ละสายตา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลบางละมุงอย่างเร่งด่วน
สอบถาม น.ส.แอน (นามสมมุติ) ผู้เป็นภรรยา เล่าว่า ตนทั้งสองมีอาชีพค้าขายไก่ทอด ก่อนเกิดเหตุได้ระแคะระคายว่าสามีสุดที่รักแอบปันใจให้หญิงอื่น ซึ่งหญิงสาวคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่ตนเองไว้ใจ แอบมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามีของตนเอง 
ทำให้ตนเองเกิดความคับแค้นใจเป็นอย่างมาก จึงวางแผนทำทีไปลูบคลำอวัยวะเพศของสามี จากนั้นอาศัยจังหวะที่สามีกำลังเคลิบเคลิ้มใช้มีดคัตเตอร์เฉือนอวัยวะเพศของ สามีจนเกือบขาด เลือดพุ่งกระฉูดเต็มที่นอน ทำให้สามีร้องลั่นบ้าน ด้วยความสงสารจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯนำส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้น นายสมชาย(นามสมมุติ) ได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดมาก ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนอวัยวะเพศจะกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากกลัวกระทบกระเทือนจิตใจของผู้บาดเจ็บ จึงต้องรอติดตามผลการรักษาและพักฟื้นดูอาการต่อไป
แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183183

แทบน้ำตาไหล!! สาวหน้าตาดีผู้เคราะห์ร้ายเหตุโรงแรมถล่มที่เกาะช้าง ยิ่งรู้ว่าเธอคือใคร เสียดายเธอสุดๆ


เวลา 15.00น. วันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลา 11 วัดลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว ญาติได้นำศพน.ส.กชกร ธรรมจักร์ ผู้เสียชีวิตจากอาคารโรงแรมสยามบีช เกาะช้าง ทรุดถล่ม มาถึงวัดลาดพร้าว เพื่อมาบำเพ็ญกุศล โดยวันนี้ยังไม่ได้มีการรดน้ำศพ ทางญาติได้นำศพบรรจุโลงไว้ เพื่อทำพิธีในวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติพี่น้อง
นาย วิชญ ธรรมจักร์ อายุ58 ปี อาของน.ส.กชกร เปิดเผยว่าหลานสาว เรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชานาฏศิลป์และศิลปการแสดงคณะมนุษยศาสตร์และสังคม ศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏจันทรเกษม แม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุได้ไม่กี่ขวบ และพ่อป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ และประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดสมอง ทำให้ต้องอยู่บ้านเฉยๆ และมีน้องชาย 1 คน น้องพึ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และยังต้องดูแลปู่และย่าอายุเกือบ 90 ปี ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวก่อนหน้านี้เคยขายเสื้อผ้า ต่อมาไปเรียนทำอาหารญี่ปุ่น แล้วมาเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่น ชื่อร้านนานาคุ๊กกิ้งที่บ้านพักย่านลาดพร้าว เป็นคนดีน่ารัก ชอบทำบุญ
ส่วน ที่มีการพูดกันว่าหลานสาว เป็นคนไปปลุกเพื่อนให้รู้ตัว แต่ตนเองต้องเสียชีวิตนั้นตนเองไม่รู้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพียงแต่ไปรับศพ หลานกลับมาเท่านั้น ซึ่งการเดินทางไปรับศพหลานสาว ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ให้การช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี และในวันนี้ยังไม่ได้มีการรดน้ำศพเพราะว่าเพิ่งรับศัพกลับมาถึง เตรียมตัวไม่ทัน ต้องทำพิธีพรุ่งนี้โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย ถึง11มิ.ย.ประชุมเพลิงวันที่ 12 มิ.ย.เวลา 15.00 น



แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183178

ยิ่งกว่าศิลาจารึก!! เปิดชัดๆสุดยอดลายมือนักเรียน “วิชาภาษาไทย” ที่แม้แต่ครูยังขอลาตาย วัดกันไปเลยใครอ่านได้แค่ไหน งานนี้มีเฉลย!! (ชมภาพ)


เรียกเสียงฮือฮาในวงการเรียนการสอนได้ไม่น้อยเมื่อคุณครูท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพแบบฝึกหัดวิชาภาษาไทยที่ให้นักเรียนเขียนมาส่ง ซึ่งพอได้เริ่มอ่านก็ทำให้รู้เลยว่า “แทบไม่รู้เรื่องสักตัวอักษร” งานนี้ทำคุณครูถึงกับเวียนศีรษะจนต้องเขียนกำกับท้ายแบบฝึกหัดว่าแบบสุดฮาว่า “ครูขอตายดีกว่า!”

ด้านชาวเน็ตหลังจากเห็นภาพดังกล่าวต่างก็ใช้ความพยายามกันสุดความสามารถที่จะตีความสิ่งที่นักเรียนคนนี้เขียนมา ถึงขั้นพูดว่า “กบกินเดือน (การเกิดสุริยุปราคา) ในอดีตมีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้มีสมาชิก 4 คน ครูพยายามได้แค่นี้จริงๆลูก เลเวลครูยังไม่ถึง สมัยครูเรียนเอกไทย อ่านศิลาจารึกยังไม่ยากเท่าลายมือหนูเลยลูก ยอมใจจริงๆ =_=””




แหล่ง : http://www.thaisook.com/5908

จำได้ไหม !!! สาว ม.5 กำพร้าพ่อ-แม่ ล่าสุดทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้แล้ว !??


หลังจากสื่อได้ตีแผ่เรื่องราวชีวิตสุดรันทดของ น.ส.สาวิตรี หลวงเอี่ยม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชัยมงคลพิทยา ที่กำพร้าพ่อแม่และอาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพผุพังทั้งหลัง ที่หมู่ 5 ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย แต่เธอก็ไม่เคยท้อแท้ในชีวิต กลับมุ่งมั่นรับจ้างทำงานสารพัดเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสื

ล่าสุด วันนี้ ( 6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง, เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุโขทัย และนายมรกต กลัดสอาด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38 ได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ น.ส.สาวิตรี พร้อมเตรียมให้การช่วยเหลือในด้านอื่นๆ
ขณะที่เทศบาลตำบลเมืองบางขลัง และเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ได้มีการจัดสรรงบประมาณ พร้อมกับเตรียมกำลังพล เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้แก่ น.ส.สาวิตรี นักเรียนยอดกตัญญูรายนี้ รวมทั้งจะมอบทุนการศึกษาให้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

นอกจากนี้ ในโลกสังคมออนไลน์ ซึ่งได้กระหน่ำแชร์ข่าวนี้กันอย่างรวดเร็ว ปรากฏว่ามีผู้ใจบุญจำนวนมากได้โอนเงินช่วยเหลือ น.ส.สาวิตรี รวมทั้งมีผู้แสดงตนขอรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม บางรายนอกจากโอนเงินมาช่วยแล้วยังเสนองานให้ทำเพื่อเป็นรายได้เสริมด้วย


แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183176

ช็อกโลก!! เอ็กซเรย์พระพุทธรูป 1 พันปี สิ่งที่อยู่ข้างในท่าน เป็นอะไรที่ทุกคนต้องอ้าปากค้าง !???


 วันนี้สยามอัพเดท นำเสนอเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองซึ่งทางเว็บไซต์ต่างประเทศเผย โครงการสำรวจวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์ได้รับมอบพระพุทธรูปโบราณ นับพันปีองค์หนึ่งของจีน ซึ่งจัดแสดงในนิทรรศการมัมมี่ของพิพิธภัณฑ์ในเมืองรอตเตอร์ดัม เพื่อเอ็กซเรย์ภายในด้วยเครื่องซีทีสแกน จนพบว่าภายในพระพุทธรูปมีร่างมนุษย์อยู่นั้น 

สาเหตุ ที่ต้องเอกซเรย์พระพุทธรูปเก่าแก่องค์นี้ เพราะมีประวัติเล่าสืบต่อกันมาช้านานว่ามีร่างของพระชาวจีนอยู่ภายใน คณะสำรวจประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางวัฒนธรรมและพุทธศิลป์แพทย์และผู้เชี่ยว ชาญด้านรังสีวิทยาจึงต้องการสำรวจครั้งนี้เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่อง จากนับป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจมัมมี่จากจีนในโลกตะวันตก
เมื่อ นำพระพุทธรูปเข้าเครื่องซีทีสแกนเหล่านักสำรวจก็ต้องตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะภายในองค์พระพุทธรูปมีโครงกระดูกโครงหนึ่งที่ตั้งอยู่ในท่าขัดสมาธิ นั่งสงบอยู่เป็นเวลากว่าพันปีแล้วและเมื่อสำรวจภายในพวกเขาก็พบว่าอวัยวะภาย ในของมนุษย์คนนี้หายไป และถูกแทนที่กระดาษที่มีอักษรจีนโบราณจารึกอยู่เต็มไปหมดโดยนักวิทยาศาสตร์ และนักโบราณคดีระบุว่าการนำอวัยวะภายในออกนี้ถือได้ว่าเป็นกระบวนการสำคัญ ของการทำมัมมี่นักสำรวจจะได้ตรวจสอบหาดีเอ็นเอจากซากมัมมี่นี้และนำไปเผย แพร่ต่อไป
จาก ประวัติพระพุทธรูปองค์นี้เชื่อกันว่าร่างที่อยู่ภายใน คือ ร่างของพระภิกษุชาวจีนนาม “หลิวฉวน” ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งของจีนในศตวรรษที่ 11-12 หรือเกือบ1 พันปีก่อน
ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในกรุงบูดาเปสต์ประเทศฮังการี ซึ่งจะจัดแสดงไปจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้
มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก ซึ่งสมัยโบราณมีเรื่องลี่ลับอีกมากมายที่ยังเป็นความลับอยู่




ชื่นชอบข่าวนี้ อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ
แหล่ง : http://www.siamupdate.com/news-183167