Wednesday, May 25, 2016

ช็อกวงการตลก !! หลือเฟือ มกจ๊ก อดีตตลกชื่อดัง ออกมายอมรับป่วยเป็นโรคร้าย ล่าสุดกลายเป็นแบบนี้ !?



เหลือเฟือ มกจ๊ก อดีตนักแสดงตลกชื่อดัง โต้ข่าวตกอับ ปัดป่วยเป็นเอดส์ แจงช่วงที่ผ่านมาหักดิบเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ จนร่างกายน็อก ต้องงดรับงานชั่วคราว 

         ห่างหายจากหน้าจอทีวีไปนานทีเดียว สำหรับ เหลือเฟือ มกจ๊ก นักแสดงตลกชาวไทย จนเกิดเสียงลือว่า เหลือเฟือ งานหด แถมยังป่วยเป็นโรคเอดส์ 

โดย เหลือเฟือ มกจ๊ก ยอมรับว่า ที่หายหน้าหายตาไปจากจอทีวีช่วงหนึ่งนั้นเป็นช่วงที่ตนตัดสินใจเลิกบุหรี่ เลิกเหล้า ด้วยการหักดิบ ทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน จนร่างกายน็อก ต้องหยุดพักรักษาตัวเพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงอีกครั้งก่อนจะเริ่มรับงานใหม่ ส่วนเหตุผลที่ใช้วิธีหักดิบ เพราะรู้ตัวดีว่าหากจะเลิกด้วยการค่อยลด ๆ นั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตนเป็นคนที่สูบบุหรี่มานาน ตั้งแต่อายุ 20 ปีต้น ๆ ทั้งยังเป็นคนที่สูบบุหรี่หนักมาก จะมีช่วงที่ไม่สูบบุหรี่ก็แค่ตอนกินข้าวและตอนนอนเท่านั้น

         เหลือเฟือ เล่าต่อว่า ตอนที่เลิกบุหรี่ได้ ตนรู้สึกดีใจเหมือนได้ชีวิตใหม่และเป็นการให้รางวัลที่ยิ่งใหญ่กับตนเอง ลูก ๆ และคุณแม่อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังคิดอยากเลิกเหล้า เลิกบุหรี่นั้น ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณทำได้สำเร็จ เพราะมันดีต่อตัวคุณ และคนในครอบครัวเป็นอย่าง ดีทั้งเรื่องสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกเยอะ

 

         ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่าตนป่วยเป็นโรคเอดส์นั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะช่วงที่ตนหายหน้าหน้าตาไป แถมยังมีร่างกายทรุดโทรม ช่วงนั้นเป็นตอนหักดิบ เมื่อร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ตนก็เริ่มรับงานแสดง งานโชว์อีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ รายได้ที่เข้ามาก็เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครอบครัว แต่ก็ยอมรับว่ามีบางช่วงที่รายได้น้อย เพราะบางงานที่ตนรับไว้ก็มีงานช่วยที่ไม่ได้ค่าจ้างด้วย เมื่อรายได้น้อยลงตนก็ใช้จ่ายให้น้อยลงตามไป แค่นี้ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมาย แต่หากดูแล้วว่ามีรายจ่ายบางอย่างที่ไม่สามารถตัดออกไปได้จริง ๆ ตนก็จะขวนขวายหางานเพิ่มขึ้น 

         เหลือเฟือ เล่าถึงลูก ๆ ทั้ง 3 คนด้วยว่า ตอนนี้ลูกสาวและลูกชายของตนก็เริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างลูกสาวคนโต ก็อายุ 21 ย่าง 22 ปี ส่วนลูกสาวอีกคน ก็อายุ 16 ปีแล้ว ขณะที่ลูกชายคนเล็ก เพิ่งอายุ 7-8 ปี ซึ่งทุกคนยังอยู่ในวัยเรียนกันทั้งหมด ถ้าถามว่าตนเหนื่อยไหมที่ต้องหาเงินมาส่งเสียลูก ตนบอกเลยว่า ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยท้อเลยสักครั้ง เพราะตนมีความสุขกับการส่งเสียให้ลูก ๆ ได้เรียน และจะขอสู้ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ลูก ๆ ยังตั้งใจเรียน


 สำหรับเรื่องที่ตนเคยมีคดีความกับอดีตภรรยาเรื่องการแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายคนเล็ก เพราะตนอยากดูแลลูกชายด้วยตัวเอง เนื่องจากตอนที่แยกทางกัน อดีตภรรยาได้เอาลูกชายไปดูแล แต่ด้วยความที่เขาต้องทำงาน ทำให้มีหลาย ๆ ครั้งที่ต้องฝากลูกชายไว้กับตายาย ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่าลูกควรอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่มากกว่า เพราะจะให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่าอยู่กับญาติพี่น้องคนอื่น ก็ตัดสินใจคุยกันเพื่อขอลูกมาดูแลเอง แต่เขาไม่ให้ จึงมีเรื่องฟ้องร้องกันอย่างที่เป็นข่าว 

         และหลังจากที่ตนแยกทางกับอดีตภรรยา ตนก็พยายามทำความเข้าใจกับลูก ๆ ทั้ง 3 คนว่า แม้พวกเขาจะมีพ่อคอยดูแลเพียงคนเดียว โดยไม่มีแม่คอยดูแลแบบคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาขาดความอบอุ่น หรือผิดแปลกไปจากครอบครัวอื่น เพราะถึงไม่มีแม่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีพ่อ และที่สำคัญถึงไม่มีแม่ ก็ไม่ได้หมายความว่า ลูก ๆ จะเป็นคนไม่ดี ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่มั่นใจว่าลูก ๆ จะเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ก็ได้พยายามพูดและทำความเข้าใจกับเขาเรื่อย ๆ 

         ทั้งนี้ เหลือเฟือ ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้อีกว่า ตนคงไม่สามารถไปแนะนำการเลี้ยงลูกกับคุณพ่อคุณแม่คนไหนได้ เพราะแต่ละคนย่อมมีวิธีเลี้ยงลูกในแบบของตนเอง แต่ก็อยากบอกว่า ขอแค่คุณเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอแล้ว



0 comments:

Post a Comment